The Italian Job ปล้นซ้อนปล้น พลิกถนนล่า

The Italian Job ปล้นซ้อนปล้น พลิกถนนล่า เรื่องย่อ หนังรีเมกจากต้นฉบับเมื่อปี 1969 แนวแอ็กชัน ผสมจารกรรมที่สนุกใช้ได้ครับ ฉบับนั้น Michael Caine แสดงนำ (สมัยนั้นพี่ท่านชอบเล่นหนังแนวสายลับหรือไม่ก็จารกรรมจริงๆ) ส่วนเวอร์ชั่นใหม่นี้ผสมเอาเรื่องการล้างแค้นลงไปด้วย เกี่ยวกับกลุ่มจารชนที่นำโดย ชาร์ลี คร็อกเกอร์ (Mark Wahlberg) กับทีมอันประกอบด้วย จอห์น บริดเจอร์ (Donald Sutherland) แล้วยังมีสตีฟ (Edward Norton) โจรฉลาดที่ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ พวกเขาทั้งหมดขโมยทองมูลค่า 35 ล้านมาได้ อะไรน่าจะดี แต่นายสตีฟดันโกง เชิดทองหนีไปหมด เมื่อเวลาผ่านไป ชาร์ลีก็เลยวางแผนพร้อมนำทีมกลับมาทวงทองคำพร้อมล้างแค้นให้สาสม หนังถือว่ามีทีมดาราระดับแข็งครับ มีหลายตัว แต่เด่นพอกัน ขโมยซีนกันให้วุ่น ตั้งแต่ Wahlberg, Sutherland หรือ Norton ก็เล่นได้ชั่วช้ามากครับ น่ากระทืบตลอดเรื่อง และยังดูมีสมองอีกต่างหาก ซึ่งก็นับว่าทำหน้าที่ได้เยี่ยมเกินคาด ตอนแรกผมก็ไม่นึกว่าแกจะเล่นแบบตั้งใจ เพราะจริงๆ แล้วแกไม่ได้เจตนามาเล่นหนังเรื่องนี้หรอก แต่เพราะพี่แกติดสัญญาต้องเล่นหนังกับ Paramont Pictures 3 เรื่อง (เรื่องแรกคือ Primal Fear ที่แจ้งเกิดแกไปไงครับ) แล้วพี่แกก็ผลัดเรื่อยมา จนเรื่องนี้ Paramont ต้องเชิญแกมบังคับให้มาแสดง ส่วนคนตามมาสมทบก็มี Charlize Theron เป็นสเตลล่า บริดเจอร์ ลูกสาวของจอห์นที่มาเพื่อคิดบัญชีสตีฟ Theron ก็เล่นได้เด่นดี เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในเรื่องด้วย สวยกันเข้าไปครับเรื่องเนี้ย, Jason Statham มาเป็น ร็อบ ไอ้หล่อเจ้าเสน่ห์, Seth Green เป็น ไลล์ หรือ แน็ปสเตอร์ เซียมคอมมือฉมัง และ Mos Def เป็น เลฟ เอียร์ หนังทำได้น่าติดตามตลอดครับ คนที่ชอบแนววางแผนจารกรรมน่าจะสนุก เพราะมันวางกันทั้งเรื่อง ใช้สมองกันตลอด แต่ถ้าใครอยากดูหนังบู๊แลกหมัดแอ็กชันกันกระจายก็คงผิดหวัง เพราะมันตีกันด้วยหัวคิดครับ ฉากขับรถก็ไล่ล่ากันอย่างมันส์ สะใจใช้ได้ โดยเฉพาะการเอารถมินิคูเปอร์ เอาเฉพาะสีรถก็เด่นอยู่แล้ว ตอนเอามาใช้งานก็ดูน่ารัก กะทัดรัดดี แล้วยังดูไม่เว่อร์ด้วย เพราะรถมันปราดเปรียว เลี้ยวไปได้ทุกที่ แต่ตะขิดตะขวงใจนิดหนึ่ง ช่วงท้ายตอนเริ่มแผน ช่วงไคลแม็กซ์น่ะ พวกชาร์ลีเอารถมินิมาจอดเรียงกันสามคันซ้อนแถวที่มันจะทำการปล้นด้วย ก็ไม่เข้าใจว่าวายร้ายมันจะไม่เฉลียวใจเลยรึไง อีกอย่างพวกพระเอกก็ประกาศใส่หูพี่สตีฟแบบโต้งๆ อยู่แล้วว่าอั้วปล้นลื้อแน่ แต่ก็เอาเถอะครับ อย่าคิดมาก ดูเอาสนุกพอ ก็ต้องชื่นชมผู้กำกับ F. Gary Gray ด้วยล่ะครับ มือแกดี อย่างใน The Negotiator ไงครับ ทำหนังได้เข้มข้นดีออก และงานนี้ดูแกจะแน่ขึ้นด้วย เพราะตอนทำ Negotiator แกยังไม่แม่นเรื่องฉากบู๊ พอมาเรื่องนี้แม่นขึ้นเยอะเลยครับ เลยออกมามันส์ขนาดนี้ไง ส่วนตัวหนังเองก็แปลงไปจากต้นฉบับพอตัว ให้มันเข้าสมัยขึ้น แล้วก็เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนขึ้น ประเภทเพิ่มตัวร้ายให้เก๋าเก่งกว่าเดิม ซึ่งตอนแรกทีมเขียนบท Neal Purvis และ Robert Wade ได้เขียนบทเดิมไว้โดยอิงจากต้นฉบับแบบเด้ะๆ แต่พอเอามาเกลาใหม่โดย Donna Powers และ Wayne Powers ซึ่งสองคนนี้ไม่เคยดูต้นฉบับเลยครับ พวกเขาเลยเขียนออกมาคนละแนวทางกับบทดั้งเดิมไปเลย แต่ก็นับเป็นเรื่องดีนะครับ เพราะแนวใหม่นี่มันมันส์เข้าสมัยกว่ากันเยอะ สรุปคือถ้าท่านชอบแนวจารกรรมใช้สมองกันแบบ Sneakers หรือ The Score ก็น่าจะชอบล่ะครับ สนุกแน่นอน นี่ยังมีการทำภาคสองออกมาอีกนะ ทีมเดิมเลย ก็รอดูได้ครับ